วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2565

แนวปฏิบัติและองค์ความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็น การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนทางการพยาบาลโดยประยุกต์ใช้แนวคิดจิตตปัญญาศึกษา

6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ16:43

    น่าสนใจมากค่ะ การรู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น จะช่วยให้เราให้การพยาบาลผู้อื่น และทำงานร่วมกับผู้อื่นด้วยความเข้าใจกันและกันได้มากขึ้นและลดความขัดแย้งในการทำงานได้ดีค่ะ

    ตอบลบ
  2. ในฐานะผู้ที่ได้ลองนำแนวปฏิบัตินี้ไปใช้ พบว่าทั้งผู้สอนและผู้เรียนมีความเข้าใจกันมากขึ้นและใจเย็นมากขึ้นค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ16:48

    ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้วมองเห็นภาพค่ะ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ16:52

    ขอบคุณสำหรับความรู้ที่แสดงออกมาเป็นรูปธรรมค่ะ ขอต่อยอดการประเมินผลอีกรูปแบบนึงนะคะ ควรมีแบบประเมินเชิงปริมาณด้วยนะคะ เช่นแบบประเมินการตระหนักรู้ต่อตนเองและความเข้าใจผู้อื่นที่เป็นผลจากการเข้าร่วมกิจกรรมจิตตปัญษาศึกษา

    ตอบลบ
  5. อ่านแล้วมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะนำไปทดลองปฏิบัติในวิชาที่สอนอยู่ค่ะ และ
    เกิดแรงบันดาลใจที่จะนำวิธีการทางจิตตปัญญาไปทดลองใช้กับนักศึกษาค่ะ

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ21:30

    ช่วงนี้เห็นผลการสอบของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และ 2 แล้วเริ่มเป็นกังวล พยายามหาวิธีว่าทำอย่างไรให้นักศึกษาสอบได้คะแนนผ่านเกณฑ์ให้มากขึ้น อาจต้องพึ่งเรื่องการทำสมาธิกันให้มากขึ้นดีไหม จากการสอบถามนักศึกษามักจะไม่สนใจเรื่องนี้กัน มีงานวิจัยหลายเรื่องที่ศึกษาผลของการทำสมาธิต่อ academic achievement และเกิดผลเชิงบวกกัน เช่นงาน review literature ฉบับนี้ ศึกษาในโรงเรียนน่าสนใจค่ะ Contemplative Education: A Systematic, Evidence-Based Review of the effect of Meditation Interventions in Schools
    Lea Waters, Adam Barsky, Amanda Ridd & Kelly Allen
    Educational Psychology Review volume 27, pages103–134 (2015)

    ตอบลบ

Thank you for your share.